วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การพัฒนาของ Sony ในวงการเกมส์คอนโซลจาก PlayStation ถึง PlayStationVita

โลกของเราในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีต่างๆ ได้มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาอยู่ตลอดเวลาอย่างไม่เคยหยุด ซึ่งตรงนี้เองก็ได้ส่งผลให้สิ่งของ,เครื่องใช้ต่างๆนั้น ก็ได้ถูกคิดค้นและพัฒนาปรับเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้เข้าถึง "ความต้องการ" ของผู้บริโภค มีผลิตภัณฑ์หลายๆอย่างที่ได้ถูกผลิตออกมาและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเหล่านั้น ได้ถูกคิดค้นและพัฒนามาจากคำว่า"เทคโนโลยี"และ"มันสมอง"ของมนุษย์นั่นเอง ซึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งในนั้น ก็คือ PlayStation ที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก


และนี่คือประวิติและความเป็นมาของ PlayStation !!


มาซารุ อิบุกะ(ซ้าย) และ อากิโอะ โมริตะ(ขวา)

ต้นกำเนิด
ในปี 1948 อากิโอะ โมริตะ และ มาซารุ อิบุกะ ได้ทำงานร่วมกันเป็นเวลานานหลายปี ในการพัฒนาอาวุธตรวจจับความร้อนสำหรับกองทัพญี่ปุ่นก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจะจบลง ได้ช่วยให้เขาได้ใช้ประสบการณ์นี้มาสร้างบริษัท Tokyo Telecommunications Engineering Corporation (TTEC) โดยมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีโทรคมนาคมสำหรับการสื่อสารวิทยุ และในปี 1958 ก็เปลี่ยนชื่อของบริษัทมาเป็น Sony อย่างที่ทุกคนรู้จัก

ยุคเริ่มต้น
ด้วยการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการผลิตคิดค้นและพัฒนา วิทยุ ,โทรทัศน์ และ เครื่องเล่นวีดีโอ โซนี่ยังพยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง หนึ่งในนั้นคือพวกเขาได้สร้างรูปแบบเครือข่ายที่เรียกว่า System G ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงปี 70 และหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังนี้คือ เคน คุตารางิ ซึ่งภายหลักกลายมาเป็นตัวจักรสำคัญของโซนี่ ในการผลักดัน Playstation ขึ้นมา ซึ่งในเวลานั้นเขาแสดงความสนใจในการเติบโตของอันรวดเร็วตลาดเกม แต่น่าเสียดายที่โซนี่ในตอนนั้น ไม่สนใจต่อคำแนะนำของเขาและพลาดการเข้าสู่ตลาดในช่วงแรกไป จนในที่สุดก็ถูกบริษัทอย่าง Namco, Taito และ Atari นำเกม Pong, Space Invaders และ Galaxian ไปสู่ความสำเร็จอย่างถล่มทลาย

อย่างไรก็ตามความพยายามครั้งแรกของโซนี่ในการจับกระแสวีดีโอเกม ก็ไม่เป็นอย่างที่คาด ในช่วงกลางปี 80 พวกเขาได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเครื่อง MSX ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าของญี่ปุ่นเจ้าอื่น ๆอย่าง Toshiba, Panasoni
c(National) และ Sharp แต่ MSX ก็ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่ามันไม่สามารถที่จะแข่งกับเครื่องอื่น ๆอย่าง Sinclair Spectrum และ Commodore 64 ได้เลย พวกเขาจึงรู้ข้อผิดพลาดของตัวเองนั่นคือมองข้าม Nintendo ไปนั่นเอง

หากมองข้ามความสำเร็จของ Atari ไป
จะพบว่า นินเทนโด เป็นเจ้าแรกที่สามารถนำเกมเครื่องเข้าไปอยู่ในห้องนั่งเล่นของทุกบ้านทั่วโลก ด้วยความช่วยเหลือจากยักษ์ใหญ่อาเขตในสมัยนั้นอย่าง Namco และเกมดัง ๆที่อยู่ในมืออย่าง Donkey Kong นินเทนโดจึงใช้เวลาไม่นานเลยที่จะสถาปนาตัวเองเป็นจ้าวแห่งวีดีโอเกม ในขณะที่โซนี่ ทำได้แค่เพียงรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

จุดพลิกผัน
ในที่สุดโซนี่ก็ได้โอกาสที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมวีดีโอเกมในปี 1990 ด้วยการจับมือกับ นินเทนโด ซึ่งในขณะนั้นเครื่อง NES ได้ถูกแซงหน้าไปโดย เครื่องเกม 16 บิท ตัวใหม่ของเซกาก็คือ Mega Drive ทั้งกราฟิคและเกมที่ถูกนำเสนอออกมาอย่างเหนือชั้นกว่า และสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับผู้เล่น นินเทนโดจึงแก้เกมด้วยการออกเครื่อง SNES หรือ ซุปเปอร์แฟมิคอม ซึ่งก็ไปได้ดีไม่แพ้เครื่องก่อนหน้านี้ แต่กระนั้นเซกาก็ได้ประกาศที่จะทำเครื่องเล่น CD ที่สามารถประกอบเข้ากับเครื่องเดิมของเขาในชื่อ Mega CD นินเทนโด ซึ่งกลัวที่จะถูกเซกาทิ้งไปอีกรอบจึงเข้าปรึกษาขอความร่วมมือกับโซนี่ ในการพัฒนาตัวเล่น CD ด้วยการพัฒนาร่วมกันกับ Philips โดยมี เคน คุตารางิ และทีมงาน เข้าร่วมมือกับนินเทนโดแต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

หนึ่งวันหลังจากที่โซนี่ประกาศ แผนการร่วมมือกันในอนาคตกับนินเทนโดในงาน Summer Consumer Electronic Show ในปี 1991 นินเทนโดก็ประกาศยกเลิกสัญญากับโซนีและหันไปร่วมมือกับ Philips ในการพัฒนา CD drive แทน และแน่นอนว่าโปรเจคนี้ไม่เคยได้เห็นแสงตะวันเพราะ ฟิลิปส์ กำลังง่วนอยู่กับการ
พัฒนาเทคโนโลยี CDI ของตัวเอง ในขณะเดียวกันที่ญี่ปุ่น โซนี่กำลังซุ่มพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งในการคืนชีพ Super Disc Project ที่ตายไปด้วยความมุ่งมั่น(และเคียดแค้น) โดยกลับไปใช้ชื่อ Playstation ชื่อเดิมของโปรเจคที่ใช้ก่อนการจับมือกับ nintendo

ตัวคนเดียว
เมื่อไม่มีนินเทนโด หนทางในการเข้าสู่ตลาดเกมคอนโซลของโซนี่ก็เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เพราะบริษัทก็ไม่มีเกมที่สามารถมายืนพื้น ไม่มีทั้งหน่วยพัฒนาเกมในบริษัท ถึงแม้จะเคยสร้างเกมให้กับเครื่อง Mega Drive ,Mega CDและ SNES แต่ก็ไม่มีอะไรที่น่าจดจำ อีกทั้งไม่มีประสบการณ์ในตลาดคอนโซลอันเชี่ยวกรากแห่งนี้ แต่สิ่งที่โซนี่มีอยู่ในมือก็คือเครื่องที่สามารถเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของเกมได้ และทุนหนุนหลังจากบริษัทแม่

ก้าวที่ผิดพลาดของนินเทนโดนั้นนอกจาก การยกเลิกแผนพัฒนาโปรเจค CD ร่วมกับโซนี่และยึดติดกับการใช้ตลับในการบรรจุข้อมูลเกมใน N64 แล้ว พวกเขายังสร้
างความไม่พอใจให้กับ มาซายะ นาคามูระ ผู้ควบคุมการสร้างแผนกเกมอาเขตของแนมโค ที่นินเทนโดมัดมือชกเขาให้เซ็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ถึงขนาดที่นาคามูระ ร่อนหมายศาลฟ้องนินเทนโดฐานครองตลาดในแบบผูกขาด แต่ภายหลังก็ถูกControlให้ถอนฟ้องไป และนี่คือเหตุผลที่แนมโคแสนจะยินดีในการหันมาร่วมมือกับโซนี่ด้วยการเข็น Ridge Racer และเกมอาเขตในคลังอื่น ๆให้ด้วยความเต็มใจ

นอกจากนี้โซนี่ยังได้เซ็นสัญญากับบริษัท Psygnosis ก่อนที่จะซื้อมาในครอบครองภายหลัง และผลิตเกมดัง ๆอย่าง wipeout และ Destruction Derby และไม่นานหลังจากนั้น บรรดาผู้พัฒนาชื่อดังทั้งหลายก็ตบเท้ากันเข้ามาอยู่ใต้เครื่องของ PlayStation
ลุยตลาด
เครื่องชุดแรกของโซนี่วางตลาดญี่ปุ่นในวันที่ 3 ธันวาคม 1994 และในเดือนมีนาปีต่อไป เครื่องกว่า 1,000,000 เครื่องได้ถูกจำหน่ายออกไป และในเดือนกุมภาพันธ์ของปี 1998 ในอีก 4 ปีต่อมา ยอดก็สูงถึง 30 ล้านเครื่องทั่วโลก จนถึงขณะนี้ รวมแล้วกว่า 72 ล้านเครื่อง จึงไม่มีใครสามารถจะปฏิเสธได้ว่า PlayStation คือเครื่องที่เบิกทางเกมคอนโซลไปสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง

เครื่องเล่นเกมแห่งยุคจากGen1สู่Gen2
ยุคต่อมา Sony ยึดตำแหน่งคลองตลาดเกมส์อย่างต่อเนื่องจนมาถึง"เจเนอร์เรชั่น2" ด้วยเครื่อง "Play Station 2" ด้วยรูปลักษณ์แหวกแนวด้วยการวางเครื่องแนวตั้ง!! แน่นอนว่ากราฟฟิคก็ต้องสวยงามละลานตากว่า
และยังคงจุดเด่น ความสามารทในการเล่นแผ่น COPY ได้อย่างต่อเนื่อง เครื่องนี้เลยครองตลาดอยู่นานหลายปีเลยล่ะครับ
*ประวิติเล็กน้อยเกี่ยวกับPS2
เพลย์สเตชัน 2 หรือที่รู้จักกันในชื่อ พีเอสทู (PS2) เป็นรุ่นพัฒนาต่อมาจากเพลย์สเตชั่น1 การพัฒนาเริ่มต้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2542 และได้วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ครั้งแรกวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2543 และในสหรัฐอเมริกา วันที่
26 ตุลาคม ปีเดียวกัน ในช่วงเวลนั้นได้เกิดปัญหาจำนวนเครื่องเล่นขาดแคลน ทำให้ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ PlayStation 2 หลายๆ คน ต้องพบกับความผิดหวังที่จะได้เป็นเจ้าของเครื่องเล่นเกมส์ที่ทรงพลังที่สุดในขณะนั้น เกมส์ที่ออกวางจำหน่ายพร้อม PlayStation 2 เป็นครั้งแรกคือ Ridge Racer V ซึ่งเป็นเกมส์คู่บารมีของ PlayStation มาตั้งแต่ยุคเริ่มแรก (แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่ Ridge Racer จาก Namco ที่เคยโด่งดังอย่างมากในยุค PlayStation ด้วยการออกภาคต่อถึง 4 ภาคบน
PlayStation ต้องกลายเป็นมวยรองบ่อนไปตลอดยุค PlayStation 2 จนมาโผล่อีกทีก็เป็นยุค XBOX 360และ PlayStation 3 เลย ด้วยภาค 6 และ 7 ตามลำดับ)
*เพลย์สเตชัน 2 เป็นเครื่อ
งเล่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยปัจจุบันมียอดจำหน่ายมากกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก หลังจากที่มีการขาดตลาดในช่วงแรกที่วางจำหน่าย

และจากการที่"PlayStation" ประสบความสำเร็จ จนเป็นที่รู้จักของเกมเมอร์ทั่วโลก นั่นจึงทำให้โซนี่มีความคิดที่จะพัฒนาเครื่องเพลสเตชั่น ให้มาอยู่ในรูปแบบของ"เครื่องพกพา"จนมากลายเป็นเครื่อง"PSP"
กำเนิด PSP.....
PSP ได้เริ่มจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2547 ด้วยราคา 19,800 เยน หรือ 185 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,600 บาท) โดยวันแรกที่ PSP วางขายที่ ชินจุกุ โยโดบาชิ แคมเมอร่า ซึ่งมี เคน คุตารางิ ประธานบริษัทโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ เดินทางมาร่วมจำหน่ายด้วยตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า ท่ามกลางการรอคอยของเกมเมอร์มากกว่า 1,200 คน เพื่อที่จะได้ PSP ไปครอบครอง และขายหมดอย่างรวดเร็ว

เคน คุตารางิ กับ PSP

เหตุการ์ณต่างๆที่ผ่านมาของโซนี่มีแต่เรื่องดีๆมาตลอดจนกระทั่งเมื่อ"27 เมษายน 2550"ได้เกิดเหตุการ์ณบางอย่างขึ้น

โซนี่ได้ประกาศข่าวอันน่าตกใจ เมื่อคุณ เคน คุทารากิ ประธานและหัวหน้ากรรมการบริหารของบริษัท SCE (Sony Computer Entertainment) ได้ประกาศเกษียณตัวเองออกจากตำแหน่งเพื่อที่จะ"ส่งมอบคบเพลิงไปให้คนรุ่นใหม่"

คนๆ นั้นก็คือคุณ คาซุโอะ ฮิไร ประธานจาก SCEA (Sony Computer Entertainment America) ที่จะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาแทน และนี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของ SCE อย่างแน่นอน

เคน คุทารากิ (Kutaragi Ken) ผู้เปรียบเสมือนบิดาของเครื่อง PlayStation และ PlayStation 2 เพราะเครื่องเกมทั้ง 2 เกิดขึ้นมาก็เพราะได้ความคิดของเขาผู้นี้ ส่วนหลังจากที่เขาได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานและหัวหน้ากรรมการบริหาร (Chairman, CEO) อย่างเป็นทางการที่การประชุมของใหญ่ของบริษัทในวันที่ 19 มิถุนายน 2550 แล้วตัวเขาเองได้เปิดเผยใจว่าเขายังมีความฝันที่จะลองศึกษาและพัฒนาการใส่ความบันเทิงใหม่ๆ ลงไปในสุดยอดเทคโนโลยี

ถึงเขาจะไม่ได้เป็นเสาหลักของ SCE อีกต่อไป แต่เขาก็ยังจะเป็นที่ปรึกษาอวุโสด้านเทคโนโลยีให้กับ SCE อยู่ เขายังกล่าวถึงคุณ คาซุโอะ ฮิไร (Hirai Kazuo) ผู้ที่มาแทนเขาว่า คาซุโอะ นั้นเป็นผู้บริหารที่ดีและมีชิ้นผลงานมากมายให้กับบริษัท ดังนั้นเขาจะสามารถนำบริษัทไปยังเป้าหมายระดับใหม่
*สาเหตุที่ทำให้ คุณเคนลาออกนั้นบางแหล่งข่าวบอกมาว่า เนื่องจากPS3ไม่เป็นที่ได้รับความนิยมตามเป้าที่ทางบริษัทตั้งไว้ เลยทำให้บริษัทประสบภาวะขาดทุน และนี่อาจจะเป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งประธานของSCEA

ปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรเมื่อมาถึงรุ่น"Generation ที่สาม"

Sony ประสบปัญหามากมายในช่วงต้นของ PS3 แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะเข้าที่เข้าทางแล้วในวันนี้ ราคาที่เหมาะสม ยอดขายที่เอาชนะ Xbox360 ไปเมื่อไม่นามานี้ ชัยชนะของ Blu-ray และยังมีเกมที่น่าตื่นเต้นอีกมากมายที่มาแล้วและกำลังจะมา


ขอบคุณที่มา...http://play3thai.com/forums/index.php?topic=23481.0

เสริมข้อมูล
จากแหล่งข่าวที่ได้รับมา Sony มีประกาศจะวางขาย PSVita ภายในสิ้นปีนี้ซึ้งประจวบกับที่
บริษ้ท Nintendo จะวางขาย Wii U ในต้นปีหน้า(2012)ซึ้งเราจะไดรู้กันว่า PSVita กับ Wii U ใครกัน
ที่จะครองใจคอเกมส์เมอร์อย่างเราๆกัน










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น