และนี่คือประวิติและความเป็นมาของ PlayStation !!
มาซารุ อิบุกะ(ซ้าย) และ อากิโอะ โมริตะ(ขวา)
ต้นกำเนิด
ในปี 1948 อากิโอะ โมริตะ และ มาซารุ อิบุกะ ได้ทำงานร่วมกันเป็นเวลานานหลายปี ในการพัฒนาอาวุธตรวจจับความร้อนสำหรับกองทัพญี่ปุ่นก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจะจบลง ได้ช่วยให้เขาได้ใช้ประสบการณ์นี้มาสร้างบริษัท Tokyo Telecommunications Engineering Corporation (TTEC) โดยมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีโทรคมนาคมสำหรับการสื่อสารวิทยุ และในปี 1958 ก็เปลี่ยนชื่อของบริษัทมาเป็น Sony อย่างที่ทุกคนรู้จัก
ยุคเริ่มต้น
ด้วยการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการผลิตคิดค้นและพัฒนา วิทยุ ,โทรทัศน์ และ เครื่องเล่นวีดีโอ โซนี่ยังพยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง หนึ่งในนั้นคือพวกเขาได้สร้างรูปแบบเครือข่ายที่เรียกว่า System G ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงปี 70 และหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังนี้คือ เคน คุตารางิ ซึ่งภายหลักกลายมาเป็นตัวจักรสำคัญของโซนี่ ในการผลักดัน Playstation ขึ้นมา ซึ่งในเวลานั้นเขาแสดงความสนใจในการเติบโตของอันรวดเร็วตลาดเกม แต่น่าเสียดายที่โซนี่ในตอนนั้น ไม่สนใจต่อคำแนะนำของเขาและพลาดการเข้าสู่ตลาดในช่วงแรกไป จนในที่สุดก็ถูกบริษัทอย่าง Namco, Taito และ Atari นำเกม Pong, Space Invaders และ Galaxian ไปสู่ความสำเร็จอย่างถล่มทลาย
อย่างไรก็ตามความพยายามครั้งแรกของโซนี่ในการจับกระแสวีดีโอเกม ก็ไม่เป็นอย่างที่คาด ในช่วงกลางปี 80 พวกเขาได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเครื่อง MSX ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าของญี่ปุ่นเจ้าอื่น ๆอย่าง Toshiba, Panasonic(National) และ Sharp แต่ MSX ก็ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่ามันไม่สามารถที่จะแข่งกับเครื่องอื่น ๆอย่าง Sinclair Spectrum และ Commodore 64 ได้เลย พวกเขาจึงรู้ข้อผิดพลาดของตัวเองนั่นคือมองข้าม Nintendo ไปนั่นเอง
หากมองข้ามความสำเร็จของ Atari ไป จะพบว่า นินเทนโด เป็นเจ้าแรกที่สามารถนำเกมเครื่องเข้าไปอยู่ในห้องนั่งเล่นของทุกบ้านทั่วโลก ด้วยความช่วยเหลือจากยักษ์ใหญ่อาเขตในสมัยนั้นอย่าง Namco และเกมดัง ๆที่อยู่ในมืออย่าง Donkey Kong นินเทนโดจึงใช้เวลาไม่นานเลยที่จะสถาปนาตัวเองเป็นจ้าวแห่งวีดีโอเกม ในขณะที่โซนี่ ทำได้แค่เพียงรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
จุดพลิกผัน
ในที่สุดโซนี่ก็ได้โอกาสที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมวีดีโอเกมในปี 1990 ด้วยการจับมือกับ นินเทนโด ซึ่งในขณะนั้นเครื่อง NES ได้ถูกแซงหน้าไปโดย เครื่องเกม 16 บิท ตัวใหม่ของเซกาก็คือ Mega Drive ทั้งกราฟิคและเกมที่ถูกนำเสนอออกมาอย่างเหนือชั้นกว่า และสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับผู้เล่น นินเทนโดจึงแก้เกมด้วยการออกเครื่อง SNES หรือ ซุปเปอร์แฟมิคอม ซึ่งก็ไปได้ดีไม่แพ้เครื่องก่อนหน้านี้ แต่กระนั้นเซกาก็ได้ประกาศที่จะทำเครื่องเล่น CD ที่สามารถประกอบเข้ากับเครื่องเดิมของเขาในชื่อ Mega CD นินเทนโด ซึ่งกลัวที่จะถูกเซกาทิ้งไปอีกรอบจึงเข้าปรึกษาขอความร่วมมือกับโซนี่ ในการพัฒนาตัวเล่น CD ด้วยการพัฒนาร่วมกันกับ Philips โดยมี เคน คุตารางิ และทีมงาน เข้าร่วมมือกับนินเทนโดแต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
หนึ่งวันหลังจากที่โซนี่ประกาศ แผนการร่วมมือกันในอนาคตกับนินเทนโดในงาน Summer Consumer Electronic Show ในปี 1991 นินเทนโดก็ประกาศยกเลิกสัญญากับโซนีและหันไปร่วมมือกับ Philips ในการพัฒนา CD drive แทน และแน่นอนว่าโปรเจคนี้ไม่เคยได้เห็นแสงตะวันเพราะ ฟิลิปส์ กำลังง่วนอยู่กับการพัฒนาเทคโนโลยี CDI ของตัวเอง ในขณะเดียวกันที่ญี่ปุ่น โซนี่กำลังซุ่มพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งในการคืนชีพ Super Disc Project ที่ตายไปด้วยความมุ่งมั่น(และเคียดแค้น) โดยกลับไปใช้ชื่อ Playstation ชื่อเดิมของโปรเจคที่ใช้ก่อนการจับมือกับ nintendo
ตัวคนเดียว
เมื่อไม่มีนินเทนโด หนทางในการเข้าสู่ตลาดเกมคอนโซลของโซนี่ก็เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เพราะบริษัทก็ไม่มีเกมที่สามารถมายืนพื้น ไม่มีทั้งหน่วยพัฒนาเกมในบริษัท ถึงแม้จะเคยสร้างเกมให้กับเครื่อง Mega Drive ,Mega CDและ SNES แต่ก็ไม่มีอะไรที่น่าจดจำ อีกทั้งไม่มีประสบการณ์ในตลาดคอนโซลอันเชี่ยวกรากแห่งนี้ แต่สิ่งที่โซนี่มีอยู่ในมือก็คือเครื่องที่สามารถเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของเกมได้ และทุนหนุนหลังจากบริษัทแม่
ก้าวที่ผิดพลาดของนินเทนโดนั้นนอกจาก การยกเลิกแผนพัฒนาโปรเจค CD ร่วมกับโซนี่และยึดติดกับการใช้ตลับในการบรรจุข้อมูลเกมใน N64 แล้ว พวกเขายังสร้างความไม่พอใจให้กับ มาซายะ นาคามูระ ผู้ควบคุมการสร้างแผนกเกมอาเขตของแนมโค ที่นินเทนโดมัดมือชกเขาให้เซ็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ถึงขนาดที่นาคามูระ ร่อนหมายศาลฟ้องนินเทนโดฐานครองตลาดในแบบผูกขาด แต่ภายหลังก็ถูกControlให้ถอนฟ้องไป และนี่คือเหตุผลที่แนมโคแสนจะยินดีในการหันมาร่วมมือกับโซนี่ด้วยการเข็น Ridge Racer และเกมอาเขตในคลังอื่น ๆให้ด้วยความเต็มใจ
นอกจากนี้โซนี่ยังได้เซ็นสัญญากับบริษัท Psygnosis ก่อนที่จะซื้อมาในครอบครองภายหลัง และผลิตเกมดัง ๆอย่าง wipeout และ Destruction Derby และไม่นานหลังจากนั้น บรรดาผู้พัฒนาชื่อดังทั้งหลายก็ตบเท้ากันเข้ามาอยู่ใต้เครื่องของ PlayStation
ลุยตลาด
เครื่องชุดแรกของโซนี่วางตลาดญี่ปุ่นในวันที่ 3 ธันวาคม 1994 และในเดือนมีนาปีต่อไป เครื่องกว่า 1,000,000 เครื่องได้ถูกจำหน่ายออกไป และในเดือนกุมภาพันธ์ของปี 1998 ในอีก 4 ปีต่อมา ยอดก็สูงถึง 30 ล้านเครื่องทั่วโลก จนถึงขณะนี้ รวมแล้วกว่า 72 ล้านเครื่อง จึงไม่มีใครสามารถจะปฏิเสธได้ว่า PlayStation คือเครื่องที่เบิกทางเกมคอนโซลไปสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง
เครื่องเล่นเกมแห่งยุคจากGen1สู่Gen2
ยุคต่อมา Sony ยึดตำแหน่งคลองตลาดเกมส์อย่างต่อเนื่องจนมาถึง"เจเนอร์เรชั่น2" ด้วยเครื่อง "Play Station 2" ด้วยรูปลักษณ์แหวกแนวด้วยการวางเครื่องแนวตั้ง!! แน่นอนว่ากราฟฟิคก็ต้องสวยงามละลานตากว่า
และยังคงจุดเด่น ความสามารทในการเล่นแผ่น COPY ได้อย่างต่อเนื่อง เครื่องนี้เลยครองตลาดอยู่นานหลายปีเลยล่ะครับ
*ประวิติเล็กน้อยเกี่ยวกับPS2
เพลย์สเตชัน 2 หรือที่รู้จักกันในชื่อ พีเอสทู (PS2) เป็นรุ่นพัฒนาต่อมาจากเพลย์สเตชั่น1 การพัฒนาเริ่มต้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2542 และได้วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ครั้งแรกวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2543 และในสหรัฐอเมริกา วันที่ 26 ตุลาคม ปีเดียวกัน ในช่วงเวลนั้นได้เกิดปัญหาจำนวนเครื่องเล่นขาดแคลน ทำให้ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ PlayStation 2 หลายๆ คน ต้องพบกับความผิดหวังที่จะได้เป็นเจ้าของเครื่องเล่นเกมส์ที่ทรงพลังที่สุดในขณะนั้น เกมส์ที่ออกวางจำหน่ายพร้อม PlayStation 2 เป็นครั้งแรกคือ Ridge Racer V ซึ่งเป็นเกมส์คู่บารมีของ PlayStation มาตั้งแต่ยุคเริ่มแรก (แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่ Ridge Racer จาก Namco ที่เคยโด่งดังอย่างมากในยุค PlayStation ด้วยการออกภาคต่อถึง 4 ภาคบน
เพลย์สเตชัน 2 หรือที่รู้จักกันในชื่อ พีเอสทู (PS2) เป็นรุ่นพัฒนาต่อมาจากเพลย์สเตชั่น1 การพัฒนาเริ่มต้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2542 และได้วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ครั้งแรกวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2543 และในสหรัฐอเมริกา วันที่ 26 ตุลาคม ปีเดียวกัน ในช่วงเวลนั้นได้เกิดปัญหาจำนวนเครื่องเล่นขาดแคลน ทำให้ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ PlayStation 2 หลายๆ คน ต้องพบกับความผิดหวังที่จะได้เป็นเจ้าของเครื่องเล่นเกมส์ที่ทรงพลังที่สุดในขณะนั้น เกมส์ที่ออกวางจำหน่ายพร้อม PlayStation 2 เป็นครั้งแรกคือ Ridge Racer V ซึ่งเป็นเกมส์คู่บารมีของ PlayStation มาตั้งแต่ยุคเริ่มแรก (แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่ Ridge Racer จาก Namco ที่เคยโด่งดังอย่างมากในยุค PlayStation ด้วยการออกภาคต่อถึง 4 ภาคบน
PlayStation ต้องกลายเป็นมวยรองบ่อนไปตลอดยุค PlayStation 2 จนมาโผล่อีกทีก็เป็นยุค XBOX 360และ PlayStation 3 เลย ด้วยภาค 6 และ 7 ตามลำดับ)
*เพลย์สเตชัน 2 เป็นเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยปัจจุบันมียอดจำหน่ายมากกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก หลังจากที่มีการขาดตลาดในช่วงแรกที่วางจำหน่าย
*เพลย์สเตชัน 2 เป็นเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยปัจจุบันมียอดจำหน่ายมากกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก หลังจากที่มีการขาดตลาดในช่วงแรกที่วางจำหน่าย
และจากการที่"PlayStation" ประสบความสำเร็จ จนเป็นที่รู้จักของเกมเมอร์ทั่วโลก นั่นจึงทำให้โซนี่มีความคิดที่จะพัฒนาเครื่องเพลสเตชั่น ให้มาอยู่ในรูปแบบของ"เครื่องพกพา"จนมากลายเป็นเครื่อง"PSP"
กำเนิด PSP.....
PSP ได้เริ่มจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2547 ด้วยราคา 19,800 เยน หรือ 185 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,600 บาท) โดยวันแรกที่ PSP วางขายที่ ชินจุกุ โยโดบาชิ แคมเมอร่า ซึ่งมี เคน คุตารางิ ประธานบริษัทโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ เดินทางมาร่วมจำหน่ายด้วยตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า ท่ามกลางการรอคอยของเกมเมอร์มากกว่า 1,200 คน เพื่อที่จะได้ PSP ไปครอบครอง และขายหมดอย่างรวดเร็ว
PSP ได้เริ่มจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2547 ด้วยราคา 19,800 เยน หรือ 185 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,600 บาท) โดยวันแรกที่ PSP วางขายที่ ชินจุกุ โยโดบาชิ แคมเมอร่า ซึ่งมี เคน คุตารางิ ประธานบริษัทโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ เดินทางมาร่วมจำหน่ายด้วยตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า ท่ามกลางการรอคอยของเกมเมอร์มากกว่า 1,200 คน เพื่อที่จะได้ PSP ไปครอบครอง และขายหมดอย่างรวดเร็ว
เคน คุตารางิ กับ PSP
เหตุการ์ณต่างๆที่ผ่านมาของโซนี่มีแต่เรื่องดีๆมาตลอดจนกระทั่งเมื่อ"27 เมษายน 2550"ได้เกิดเหตุการ์ณบางอย่างขึ้น
โซนี่ได้ประกาศข่าวอันน่าตกใจ เมื่อคุณ เคน คุทารากิ ประธานและหัวหน้ากรรมการบริหารของบริษัท SCE (Sony Computer Entertainment) ได้ประกาศเกษียณตัวเองออกจากตำแหน่งเพื่อที่จะ"ส่งมอบคบเพลิงไปให้คนรุ่นใหม่"
คนๆ นั้นก็คือคุณ คาซุโอะ ฮิไร ประธานจาก SCEA (Sony Computer Entertainment America) ที่จะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาแทน และนี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของ SCE อย่างแน่นอน
เคน คุทารากิ (Kutaragi Ken) ผู้เปรียบเสมือนบิดาของเครื่อง PlayStation และ PlayStation 2 เพราะเครื่องเกมทั้ง 2 เกิดขึ้นมาก็เพราะได้ความคิดของเขาผู้นี้ ส่วนหลังจากที่เขาได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานและหัวหน้ากรรมการบริหาร (Chairman, CEO) อย่างเป็นทางการที่การประชุมของใหญ่ของบริษัทในวันที่ 19 มิถุนายน 2550 แล้วตัวเขาเองได้เปิดเผยใจว่าเขายังมีความฝันที่จะลองศึกษาและพัฒนาการใส่ความบันเทิงใหม่ๆ ลงไปในสุดยอดเทคโนโลยี
ถึงเขาจะไม่ได้เป็นเสาหลักของ SCE อีกต่อไป แต่เขาก็ยังจะเป็นที่ปรึกษาอวุโสด้านเทคโนโลยีให้กับ SCE อยู่ เขายังกล่าวถึงคุณ คาซุโอะ ฮิไร (Hirai Kazuo) ผู้ที่มาแทนเขาว่า คาซุโอะ นั้นเป็นผู้บริหารที่ดีและมีชิ้นผลงานมากมายให้กับบริษัท ดังนั้นเขาจะสามารถนำบริษัทไปยังเป้าหมายระดับใหม่
*สาเหตุที่ทำให้ คุณเคนลาออกนั้นบางแหล่งข่าวบอกมาว่า เนื่องจากPS3ไม่เป็นที่ได้รับความนิยมตามเป้าที่ทางบริษัทตั้งไว้ เลยทำให้บริษัทประสบภาวะขาดทุน และนี่อาจจะเป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งประธานของSCEA
*สาเหตุที่ทำให้ คุณเคนลาออกนั้นบางแหล่งข่าวบอกมาว่า เนื่องจากPS3ไม่เป็นที่ได้รับความนิยมตามเป้าที่ทางบริษัทตั้งไว้ เลยทำให้บริษัทประสบภาวะขาดทุน และนี่อาจจะเป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งประธานของSCEA
ปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรเมื่อมาถึงรุ่น"Generation ที่สาม"
Sony ประสบปัญหามากมายในช่วงต้นของ PS3 แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะเข้าที่เข้าทางแล้วในวันนี้ ราคาที่เหมาะสม ยอดขายที่เอาชนะ Xbox360 ไปเมื่อไม่นามานี้ ชัยชนะของ Blu-ray และยังมีเกมที่น่าตื่นเต้นอีกมากมายที่มาแล้วและกำลังจะมา
ขอบคุณที่มา...http://play3thai.com/forums/index.php?topic=23481.0
เสริมข้อมูล
จากแหล่งข่าวที่ได้รับมา Sony มีประกาศจะวางขาย PSVita ภายในสิ้นปีนี้ซึ้งประจวบกับที่
บริษ้ท Nintendo จะวางขาย Wii U ในต้นปีหน้า(2012)ซึ้งเราจะไดรู้กันว่า PSVita กับ Wii U ใครกัน
ที่จะครองใจคอเกมส์เมอร์อย่างเราๆกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น